5 เรื่องควรรู้ก่อนฉีดเมโสแฟต
การฉีดเมโสแฟต ก็คือการฉีดตัวยาหรือสารชนิดหนึ่งเข้าไปในชั้นไขมัน เพื่อขจัดไขมันส่วนเกิน ลดเซลล์ลูไลท์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ผิวไม่หย่อนคล้อยหลังการสลายไขมัน โดยเมื่อตัวยาถูกฉีดเข้าไปในชั้นไขมัน จะเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันให้กลายเป็นของเสีย ซึ่งของเสียจะถูกขับออกทางระบบน้ำเหลืองและตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย เช่น ปัสสาวะ อุจาระ หรือเหงื่อ สำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันส่วนเกินด้วยวิธีนี้ มี 5 เรื่องควรรู้ก่อนฉีดเมโสแฟต ดังนี้
- รู้ว่าเมโสแฟต คืออะไร
เมโสแฟต เป็นสกัดที่ได้จากธรรมชาติโดยส่วนใหญ่ โดยตัวยาในกลุ่มของPhosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, L-carnitine, amino acid หรือ Minerals ซึ่งเป็นสารสกัดจากถั่วเหลือง ไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด ในเมโสแฟต ประกอบด้วยสารยาที่มีคุณสมบัติเร่งการเผาผลาญไขมัน ดังนี้
- แอลคาร์นิทีน (L-Carnitine) เป็นสารที่มีคุณสมบัติช่วยเปลี่ยนเซลล์ไขมันให้กลายเป็นพลังงาน รวมถึงสลายไขมันส่วนเกินใต้ผิวหนัง
- เมโสสตาบิล (Mesostabyl) มีคุณสมบัติช่วยลดการเกิดเซลล์ไขมันใหม่และคอเลสเตอรอลในชั้นเนื้อเยื่อ
- ไทโรซีน (Tyrosine) เป็นสารช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันของร่างกายให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น
- สารสกัดอาร์ติโชค (Artichoke extract) มีคุณสมบัติช่วยลดการสร้างกรดไขมันและระดับไขมันแบบเฉพาะจุด
- การฉีดเมโสแฟต ใช้กับบริเวณใดบ้าง
- การฉีดเมโสแฟตบริเวณพุง และหน้าท้อง เพื่อลดไขมันส่วนเกินทำให้หน้าท้องแบนราบกล้ามเนื้อกระชับมากขึ้น
- การฉีดเมโสแฟต บริเวณใบหน้าเพื่อลดไขมันบริเวณแก้ม ช่วยปรับรูปหน้าทำให้หน้าดูเรียวแลง
- การฉีดเมโสแฟต บริเวณคาง (เหนียงบริเวณใต้คาง) เพื่อลดไขมันที่สะสมอยู่ทำให้คางมีลักษณะเป็นสองชั้น
- การฉีดเมโสแฟต บริเวณต้นแขน ต้นขา เพื่อขจัดไขมันทำให้แขน ขา ดูเรียวเล็กลง
- การฉีดเมโสแฟตบริเวณน่อง เพื่อลดไขมันที่น่อง แต่ส่วนมากที่น่อง มักจะเป็นกล้ามเนื้อซึ่งต้องใช้โบท็อกซ์ในการลดจะให้ผลดียิ่งขึ้น
- การฉีดเมโสแฟตบริเวณจมูก เพื่อลดไขมันที่จมูก ร่วมกับการทำโบท็อกซ์ลดปีกจมูก ทำให้ปีกจมูกที่ดูบานเล็กลง
- การฉีดเมโสแฟตบริเวณหนังตาบน เพื่อลดไขมันที่หนังตาและถุงใต้ตา
- การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต
- เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานและต้องการรับบริการ จากนั้นเข้าพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินสภาพใบหน้า พร้อมแจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว
- หยุดรับประทานอาหารเสริมและวิตามินที่มีผลต่อเลือด
- หยุดการใช้ยากลุ่มแอสไพริน 48 ชั่วโมง
- เมื่อได้วันนัดจากแพทย์ หรือกำหนดวันฉีดเมโสแฟตไว้แล้ว ควรหยุดกิจกรรมหนัก ๆ และพักผ่อนให้เพียงพอ
- การดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต
- ดื่มน้ำ หรือจิบน้ำบ่อย ๆ เพื่อช่วยขับไขมันส่วนเกินออกมา
- หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อย่างน้อย 3 วัน หลังฉีด เพื่อลดการบวมช้ำ
- หลีกเลี่ยงการนวดตัว อบซาวน่าและการทำทรีทเม้นท์ใด ๆ อย่างน้อย 1 สัปดาห์ หลังฉีดเพื่อลดการฟกช้ำ
- หลังฉีดเมโสแฟตแก้ม ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารควบคู่กันไปด้วยเช่น หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมัน และน้ำตาลสูง
- ควรออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น
- รู้ข้อห้ามและข้อควรระวังในการฉีดเมโสแฟต
- ข้อห้ามในการฉีดเมโสแฟต สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน ควรหลีกเลี่ยงการฉีด
- ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ มีการรักษาด้วยยาหลายชนิด
- ผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และมีการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ
ทราบ 5 เรื่องควรรู้ก่อนฉีดเมโสแฟต กันแล้วนะคะ การศัลยกรรมความงามทุกประเภท อาจมีผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้เสมอ เพียงเรารู้วิธีดูแลตนเองอย่างถูกต้อง เลือกคลินิกที่ได้มาตรฐานมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีใบประกอบวิชาชีพถูกต้อง ก็ช่วยให้เราสวยอย่างปลอดภัยได้แล้วค่ะ