เลเซอร์หน้าใส Q-switch
Q-switch คืออะไร?
Q-switch คือ เลเซอร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาฝ้า กระ รอยดำ และรอยแผลเป็น โดยหลักการทำงานQ-switchก็คือเป็นการใช้คลื่นแสงที่มีความหนาแน่นและความเข้มข้นสูง เพื่อทำให้เม็ดสีที่อยู่ภายใต้ชั้นผิวหนังกระจายตัวออก จากนั้นเม็ดเลือดขาว จะเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดสีที่ผิดปกติ และขับออกจากร่างกาย
การทำQ-switch จะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการทำ IPL เพราะมีคลื่นแสงมากกว่าถึง 8 เท่า โดยปกติแล้วการรักษาผิวหน้าด้วย Q-switchให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุดควรรักษาต่อเนื่อง 3-6 ครั้ง และเข้ารับการรักษาทุกๆ 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ก็คืออยู่กับสภาพผิวของผู้ที่รับการรักษาด้วย เนื่องจากบริเวณผิวที่แตกต่างกัน จะมีความตื้นลึกของเซลล์เม็ดสีไม่เท่ากัน
Q-switch ใช้บริเวณไหน
Q-switchนิยมใช้บริเวณใบหน้า และส่วนอื่นที่มีปัญหาผิว สำหรับการทำQ-switchจะใช้เวลาทำประมาณ 10-30 นาที ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ โดยขณะที่ทำผู้รับบริการอาจมีอาการแสบร้อนตรงบริเวณที่รักษาบ้าง แต่จะดีขึ้นหลังจากรักษาเสร็จ
Q-switch เหมาะกับใคร
Q-switchเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องฝ้า กระ รอยแดง รอยดำจากสิว รอยแผลเป็น หรือ ต้องการที่จะลบรอยสัก นอกจากจะช่วยแก้ปัญหสผิวในข้างต้นได้แล้วQ-switchยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดเลือนริ้วรอย ช่วยให้ผิวเนียนใส และกระชับมากขึ้น อย่างไรก็ตามผู้ที่มีสิวอักเสบไม่ควรรับบริการQ-switchเพราะอาจทำให้สิวเกิดการอักเสบมากกว่าเดิม
การดูแลหลังรับบริการ Q-switch
หลังการทำQ-switchผู้รับการรักษาอาจรู้สึกแสบร้อนบริเวณที่ทำอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง-1 ชั่วโมง หลังจากนั้นประมาณ 4-5 วัน อาจมีการตกสะเก็ดหรือรอยดำบริเวณที่รักษา ซึ่งจะค่อยๆ หลุดหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์
โดยหลังการรักษา ผู้รับบริการควรทำตามข้อปฏิบัติในการดูแลตนเองดังต่อไปนี้
- หลีกเลี่ยงการออกแดด และโดดแดดจัด ประมาณ 1-2 สัปดาห์
- ควรทาครีมกันแดดทุกครั้งที่ออกไปข้างนอก โดยควรใช้ครีมกันแดด SPF 30 PA+ ที่สามารถปกป้องแสดงและมลภาวะต่างๆ ได้