รีวิวตาสองชั้น  เปิดหัวตา

รีวิวตาสองชั้น เปิดหัวตา

รีวิวตาสองชั้น เปิดหัวตา #ทีมแพทย์หมอกาญจน์💕จากตาเศร้า สู่ตาหวาน ไม่ว่าจะปัญหาไหน ชั้นตาไม่เท่ากันหรือตาเศร้า ก็แก้ไขได้ค่ะ เพียงแวะมาที่ #doctorgarnclinic ให้เราดูแลดวงตาของคุณนะคะ 🎉
ศัลยกรรมตาสองชั้นเป๊ะปังกับ Doctor Garn ✨
✔ บวมช้ำน้อย ✔ แผลสวย ✔ หายไว
🔹 มีเทคนิคเฉพาะในการเพิ่มความหวานให้ดวงตา
🔹 ประเมินและออกแบบใหม่เคสบายเคส
🔹 คุณหมอชำนาญด้านศัลกรรมตาโดยเฉพาะ
🔹 ประสบการณ์มากกว่า 10,000 เคส
⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀
อยากเนรมิตชั้นตาสวยกับ #หมอกาญจน์
ทักปรึกษาหรือสอบถามรายเพิ่มเติมได้เลยนะคะ
Dr.Garn Clinic ยินดีให้คำแนะนำ
⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀⠀
[ ผลลัพธ์ของการผ่าตัดขึ้นอยู่กับพื้นฐานของแต่ล่ะบุคคล ]
ทำตาสองชั้น

ทำตาสองชั้น

ปัจจุบันการทำตาสองชั้นเป็นการศัลยกรรมความที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย นอกจากจะช่วยในเรื่องความสวยงามแล้ว ปัญหาหนังตาตก หนังตาหย่อนคล้อยลงมา ทำให้ดูมีอายุมากขึ้น และบางครั้งหนังตาตกที่มาบังการมองเห็นก็สร้างความรำคาญ และเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมาทำตาสองชั้นอีกด้วย การทำตาสองชั้นนั้นมีหลายวิธีมากมาย แล้วเราเหมาะกับแบบไหน แบบไหนดีกว่า? ซึ่งจริงๆแล้วทุกวิธีการทำตาสองชั้นมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ไม่มีวิธีไหนที่ดีที่สุดเหมาะกับทุกคน ศัลยแพทย์ที่ดีควรจะสามารถทำตาสองชั้นได้ทุกวิธี และเลือกวิธีที่ดีที่สุดที่เหมาะกับแต่ละคน เรามาดูกันว่าการทำตาสองชั้นมีกี่วิธี วิธีไหนบ้าง แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียอย่างไร

การทำตาสองชั้น วิธีต่างๆ ในปัจจุบัน

ในปัจจุบัน การทำตาสองชั้น มีหลากหลากวิธีและเทคนิคที่แตกต่างกันออกไปตามความถนัดของแพทย์แต่ละท่าน และตามความเหมาะสมกับดวงตาของแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้นในผู้หญิงหรือการทำตาสองชั้นในผู้ชาย การเลือกวิธีที่เหมาะสมกับลักษณะของดวงตาเป็นปัจจัยอย่างหนึ่งที่มีความสำคัญมาก เรามาดูกันว่าการทำตาสองชั้นสามารถทำวิธีใดได้บ้าง และแต่ละวิธีเหมาะกับลักษณะดวงตาแบบไหน

แก้ตาสองชั้นที่ไม่ได้ดั่งใจ ปัญหาไหนเจอบ่อย แก้ยังไงมาดูกัน

การทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด (Suture Technique)

คือการทำตาสองชั้นโดยไม่ต้องกรีด จะใช้วิธีเย็บชั้นที่เปลือกตาโดยเจาะเป็นรูที่เปลือกตา 3 จุด ไม่เป็นแผลกรีด เป็นวิธีการทำตาสองชั้นที่นิยมทำกันมากวิธีหนึ่ง เหมาะกับเคสที่มีตาชั้นเดียว หนังตาและไขมันไม่หนา ไม่หย่อนคล้อย เวลาหลับตาจะเนียนไม่เห็นแผล แต่ต้องระวังในเรื่องของชั้นตาที่อาจจะหลุดง่าย และการเย็บทะลุเปลือกตา

การทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด เหมาะกับใคร

  1. คนที่มีตาชั้นเดียว โดยที่หนังและไขมันบริเวณเปลือกตาไม่หนา
    2. วัยรุ่น หรือคนที่ผิวบริเวณเปลือกตาไม่หย่อนคล้อย

ข้อดีของการ ทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด

  1. ไม่เห็นรอยแผลเป็น การทำตาสองชั้นวิธีนี้ รอยแผลจะไม่ค่อยเห็น เนื่องจากรูเล็กมาก
    2. การทำตาสองชั้นวิธีนี้อาจจะบวมน้อย เพราะเป็นแค่การเย็บ 3 จุด จะกระทบเนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตาน้อยมาก จึงแทบไม่ต้องใช้เวลาหยุดพักฟื้น

ข้อเสียของการ ทำตาสองชั้น แบบเย็บ 3 จุด

  1. ชั้นตาหลุดง่าย (โดยเฉพาะในคนที่เปลือกตาหนาๆบวมๆ มีไขมันมาก) เพราะเป็นแค่การเย็บ 3 จุด ไม่ได้ตัดหนังตาส่วนเกินออกและไขมันออก
    2. ทำชั้นตาใหญ่ไม่ได้มาก
    3. นานๆไปตาสองชั้นที่ทำไว้ค่อยๆเลื่อนเล็กลงๆ

การทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก (Small Incision Technique)

เป็นการทำตาสองชั้น โดยกรีดแผลที่เปลือกตาขนาด 3-5 mm (แล้วแต่เทคนิคของศัลยแพทย์แต่ละท่าน) ในกรณีคนไข้มีปริมาณหนังตาและไขมันที่เปลือกตาไม่มากเกินไป ก็จะสามารถทำตาด้วยเทคนิคแผลเล็กได้ เป็นการผ่าตัดที่รบกวนต่อเนื้อเยื่อเปลือกตาน้อย ทำให้การบวมหลังผ่าตัดน้อยมาก

การทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก เหมาะกับใคร

  1. คนที่ปริมาณหนังตาส่วนเกินไม่มากเกินไป
    2. วัยรุ่น หรือคนที่ผิวบริเวณเปลือกตาไม่หย่อนคล้อย

ข้อดีของการทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก

  1. รอยแผลเป็นเล็ก หายง่าย เพราะเป็นแค่การกรีดแผลบริเวณเปลือกตาเพียง 3-5 mmหลังจากชั้นตายุบตัวเข้าที่ แผลสมานเรียบร้อยแล้วจะแทบไม่เห็นรอยแผลเป็นเลย จะเป็นเหมือนรอยพับชั้นตาตามธรรมชาติ
    2. ใช้เวลาในการผ่าตัดน้อย รบกวนเนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตาน้อยมาก อาการบวมช้ำจึงน้อยไปด้วย ยุบเร็ว เข้าที่เร็ว (เมื่อเทียบกับทำแผลใหญ่) หลังทำแทบไม่ต้องพักฟื้น สามารถออกไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
    3. เหมาะกับคนอายุน้อยๆ ที่มีหนังตาไม่มาก เปลือกตาไม่หนามาก เพราะวิธีนี้จะไม่ได้เอาหนังตาส่วนเกินออก
    4. สามารถทำตาสองชั้นและเอาไขมันออกได้ มากกว่าการเย็บ 3 จุด

ข้อเสียของ การทำตาสองชั้น แบบแผลเล็ก

  1. คนที่มีหนังตาตกมาก หนังตาจะตกมาปิดหลังจากยุบบวม ชั้นจะเล็กลง หรือยังมีหนังตาย้อยลงที่หางตา
    2. คนที่เปลือกตาหนามาก การทำตาสองชั้นวิธีนี้ ชั้นตาจะดูอูมๆกว่าปกติ เนื่องจากเป็นการทำตาสองชั้นโดยเย็บชั้นตาขึ้นไปให้สูงขึ้น โดยไม่ได้เอาผิวหนังและเนื้อเยื่อเปลือกตาส่วนเกินออก ดังนั้นหากเป็นคนที่มีหนังเปลือกตามาก หรือเคสสูงอายุที่มีความหย่อนคล้อยมากแล้ว แพทย์จะแนะนำให้ทำการผ่าตัดแบบกรีดยาวร่วมกับการตัดหนังตาส่วนเกินออกจะได้ผลลัพธ์ที่ดีและสวยงามกว่า

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคืออะไร อันตรายไหม ทำศัลยกรรมตาสองชั้นแก้ได้ไหม

การทำตาสองชั้น แบบแผลยาว

คล้ายกับการทำตาสองชั้นแบบแผลเล็ก แต่เป็นการกรีดแผลยาวขึ้น เพื่อให้สามารถเย็บชั้นตาได้ตลอดแนว โดยไม่ได้ตัดหนังตาส่วนเกินออก วิธีนี้ผลลัพธ์ไม่แตกต่างจากการทำแบบแผลเล็กแต่รอยแผลยาวกว่า บวมนานกว่า

การทำตาสองชั้น แบบแผลยาว เหมาะกับใคร

  1. คนที่ปริมาณหนังตา และไขมันบริเวณเปลือกตาไม่มากเกินไป
  2. วัยรุ่น หรือคนที่ผิวบริเวณเปลือกตาไม่หย่อนคล้อย

ข้อดีของการทำตาสองชั้น แบบแผลยาว

  1. ลดโอกาสการเกิดหนังตาที่หางตาตกมากกว่าในแผลเล็ก (แต่ถ้าหนังตาตกเยอะมากก็เอาไม่อยู่)
  2. การทำตาสองชั้นวิธีนี้ เป็นการกรีดแผลยาว จึงสามารถเอาไขมันออกได้มากขึ้น โดยเฉพาะในคนที่เปลือกตามีไขมันมาก ฝนเคสวัยรุ่นที่เปลือกตาไม่ได้มีความหย่อนคล้อยก็สามารถใช้เทคนิคนี้ได้

ข้อเสียของการทำตาสองชั้น แบบแผลยาว

  1. มีอาการบวมช้ำมากกว่าและนานกว่าเมื่อเทียบกับการทำแบบแผลเล็ก รอยแผลยาวและเห็นได้ชัดกว่า
    เหมือนข้อเสียในแบบแผลเล็ก ไม่เหมาะกับคนที่มีไขมันและเปลือกตาหนามาก เพราะเทคนิคนี้สามารถเอาไขมันออกได้ในระดับนึง แต่ไม่ได้ตัดเอาหนังตาส่วนเกินออก ดังนั้นถ้าใช้วิธีนี้กับเคสที่มีหนังตาตก หรือมีความหย่อนคล้อยมาก หนังตาที่มีอยู่ก็จะตกลงมาปิดชั้นตา ทำให้เห็นชั้นตาไม่ชัดอยู่ดี

การทำตาสองชั้น แบบกรีดยาวร่วมกับตัดหนังส่วนเกินออก

เป็นการทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวเพื่อให้สามารถออกแบบชั้นตาได้ตลอดแนว วิธีนี้จะสามารถเอาไขมันส่วนเกินออก ตัดหนังตาส่วนเกินที่หย่อนคล้อยและลงมาบังชั้นตาออกได้ด้วย เป็นเทคนิคที่สามารถใช้ได้กับทุกวัย ไม่ว่าจะวัยรุ่น หรือกลุ่มคนสูงอายุ คนที่มีชั้นตาอยู่แล้วแต่รู้สึกว่ายังไม่ค่อยชัด ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้

การทำตาสองชั้น ร่วมกับตัดหนังตาส่วนเกินออก เหมาะกับใคร

  1. เหมาะกับทุกเคส ทั้งวัยรุ่น และวัยที่มีความหย่อนคล้อย
  2. คนที่มีหนังตาตก มีหนังตาและไขมันบริเวณเปลือกตามาก
  3. คนที่มีชั้นตาอยู่แล้ว แต่อยากให้ชัดขึ้นอีก

ข้อดีของการทำตาสองชั้น ร่วมกับตัดหนังส่วนเกินออก

  1. สามารถเก็บหนังตาส่วนเกินออกได้ แก้ไขหนังตาตกได้ดี รวมทั้งไขมันและกล้ามเนื้อเปลือกตาในคนที่เปลือกตาหนาๆ
  2. การทำตาสองชั้นวิธีนี้ สามารถกำหนดรูปร่างแนวชั้นตาได้ตามความต้องการ

ข้อเสียของการทำตาสองชั้น ร่วมกับตัดหนังส่วนเกินออก

  1. บวมมากกว่าและนานกว่าวิธีอื่นๆ เพราะเป็นการกรีดยาวจึงทำให้กระทบกับเนื้อเยื่อบริเวณเปลือกตามากกว่าแบบแผลเล็ก ใช้เวลาในการเข้าที่นานกว่า
  2. แผลเป็นยาวตลอดแนวตา (เหมือนในแผลยาว)
  3. ใช้เวลาผ่าตัดนานกว่า เนื่องจากมีการกรีดตายาว ต้องนำเอาไขมันและตัดหนังตาส่วนเกินออกด้วย แพทย์จึงต้องใช้เวลาในการผ่าตัดมากกว่าปกติ

การทำตาสองชั้น ร่วมกับ เปิดหัวตา

การเปิดหัวตา คือการผ่าตัดตกแต่งหนังตาที่ปิดบริเวณหัวตา เพื่อให้บริเวณหัวตาดูกว้างขึ้น เห็นชั้นตาบริเวณหัวตาชัดขึ้น รูปร่างตาดูยาวขึ้น ความโค้งของชั้นตาบริเวณหัวตาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในเคสที่หนังตาลงมาปิดบริเวณหัวตา ทำให้ตาดูเหล่ การเปิดหัวตานี้ก็จะช่วยได้ แต่หากคนใดที่มีมุมหัวตาที่เปิดอยู่แล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะเปิดหัวตา

การทำตาสองชั้นและเปิดหัวตาร่วมด้วย คุณหมอจะพิจารณาความจำเป็นและความเหมาะสมในแต่ละคน ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการทำตาสองชั้นแล้วจะมีความจำเป็นต้องเปิดหัวตาร่วมด้วย

การทำตาสองชั้น ร่วมกับเปิดหัวตา เหมาะกับใคร

  1. คนที่หนังตาลงมาปิดบริเวณหัวตามาก ทำให้ตาดูเหล่
  2. คนที่อยากได้ชั้นตาใหญ่ แต่มีหัวตาปิด
  3. คนที่หัวตามีเส้นเป็นแฉก

ข้อดีการทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา

  1. ตามีรูปร่างเรียวยาวขึ้น
    2. ทำให้เห็นชั้นตาตั้งแต่บริเวณหัวตา (แล้วแต่ความต้องการส่วนบุคคล)
    3. ในเคสที่มีระยะห่างระหว่างตาสองข้างมาก การเปิดหัวตาจะช่วยให้หัวตายาวขึ้น ใกล้จมูกมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาตาเหล่ได้
    4. ในเคสที่ต้องการชั้นตาใหญ่ แต่หนังที่หัวตาปิด การผ่าตัดเปิดหัวตาจะช่วยให้ชั้นตาเป็นธรรมชาติมากขึ้น

ข้อเสียการทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา

อาจเกิดแผลเป็นที่บริเวณหัวตา ในช่วงแรกหลังทำจะเห็นรอยแผลบริเวณหัวตาชัดมาก ลักษณะจะเป็นขีดเส้นๆลงมาตรงบริเวณหัวตา แต่จะค่อยๆจางลงไปได้เอง

การทำตาสองชั้น ร่วมกับ ย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก

การที่มีเบ้าตาลึกนั้น จะไม่สามารถทำตาสองชั้นธรรมดาทั่วไปได้ เพราะหลังทำจะไม่มีชั้นตา หรือตาอาจเป็นสามชั้น เบ้าตาจะยังลึกเหมือนเดิม การทำตาสองชั้นในคนที่เบ้าตาลึกนั้น คุณหมอจะต้องประเมินวิธีการที่จะแก้ไขเบ้าตาลึกในแต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งต้องพิจารณาอย่างละเอียด เบ้าตาลึกเหมือนกัน แต่ละคนต่างกันคุณหมอจะเลือกใช้วิธีที่แตกต่างกัน

การทำตาสองชั้น ร่วมกับย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก เหมาะกับใคร

1.คนที่เบ้าตาลึก หรือตาเป็นร่องบริเวณเหนือเปลือกตา(ใต้คิ้วใต้กระดูกเบ้าตา)

ข้อดี การทำตาสองชั้น ร่วมกับ ย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก

1. ไขมันที่ย้ายมาเติม แพทย์จะเอาไขมันจากบริเวณใกล้เคียงในเปลือกตาของคนไข้เอง ย้ายมาใช้หนุนร่องลึกให้กลับมาเต็มตื้นมากขึ้น แน่นอนว่าเป็นเซลล์ไขมันจากร่างกายของคนไข้เอง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยแน่นอนเพราะไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม ไม่มีอาการแพ้ ไม่มีผลข้างเคียง

2. กรณีไขมันบริเวณเปลือกตาน้อยมาก แพทย์จะพิจารณาทำการปลูกถ่ายไขมันจากบริเวณอื่น เช่น หน้าท้อง หรือต้นขา เพื่อแก้ปัญหาเบ้าตาลึกให้ดีขึ้น แน่นอนว่าเป็นเซลล์ไขมันจากร่างกายของคนไข้เอง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าปลอดภัยแน่นอนเพราะไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม ไม่มีอาการแพ้ ไม่มีผลข้างเคียง

3. หน้าเด็กขึ้น ปัญหาเบ้าตาลึกจะทำให้เราดูโทรม และแก่กว่าวัย หลังจากแก้ไขปัญหาตรงนี้ไป ใบหน้าเราจะกลับมาดูสดใสอ่อนเยาว์มากขึ้น

ข้อเสีย การทำตาสองชั้น ร่วมกับ ย้ายไขมันแก้ไขเบ้าตาลึก

  1. ขึ้นอยู่กับไขมันของแต่ละคนว่ามีมากน้อยขนาดไหน และเซลล์ไขมันแข็งแรงมากเพียงใด ผลลัพธ์จึงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
    2. ในรายที่เคยทำตามาก่อน แล้วแพทย์เอาไขมันออกไปมาก อาจทำให้ไม่เหลือไขมันให้ย้ายไม่มากนัก จึงต้องปลูกถ่ายไขมันจากบริเวณอื่นทดแทน แพทย์แต่ละท่านอาจมีเทคนิคและความชำนาญที่แตกต่างกัน

กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคืออะไร อันตรายไหม ทำศัลยกรรมตาสองชั้นแก้ได้ไหม

ทำตาสองชั้นราคา

การทำตาสองชั้นที่ Doctor Garn Clinic โปรโมชั่นเริ่มต้นราคา 12,900 บาท ดูแลโดยทีมแพทย์ที่มีความรู้ด้านการทำตาสองชั้นโดยเฉพาะ มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำตาสองชั้น แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง กำจัดถุงใต้ตา เปิดหัวตา เปิดหางตา ยกหางตา ยกคิ้วและยังมีเทคนิคเฉพาะ Blink Eyes Technique ที่มีการออกแบบเฉพาะบุคคล และปรับให้ได้ดวงตากลมโตสดใสหวานเข้ากับใบหน้า

ศัลยกรรมตาสองชั้น เหมาะกับใครบ้าง

การศัลยกรรมตาสองชั้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำศัลยกรรมเปลือกตา โดยสามารถทำเพื่อการรักษาหรือเพื่อเสริมความงามก็ได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาคือการมีตาสองชั้นที่สวยและดูเหมาะกับรูปหน้าของแต่ละบุคคล นอกจากนั้นยังช่วยแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่มีหนังตาหย่อยคล้อยจนชั้นตาหาย ตาปรือหรือตาสองข้างไม่เท่ากันซึ่งเป็นอาการบ่งชี้ของภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือผู้ที่มีปัญหาหาบริเวณรอบดวงตาอื่น ๆ

ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจทำตาสองชั้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเพื่อให้แพทย์ได้ทำการวินิจฉัยและเลือกแนวทางที่เหมาะสมว่าแต่ละคนควรจะทำตาสองชั้นวิธีไหน และชั้นตาแบบไหนที่เข้ากับใบหน้า เพื่อทำเรามีดวงตาที่สวยและเพิ่มความมั่นใจให้กับเรามากยิ่งขึ้น

 

จุดเด่นในการทำศัลยกรรมตาสองชั้นที่ Doctor Garn Clinic

  • ดูแลโดยแพทย์ที่มีความชำนาญในด้านการทำตาสองชั้น และมีประสบกาณ์มามากกว่า 10,000 เคส
  • ประเมินและแก้ปัญหาอย่างตรงจุด
  • ออกแบบชั้นตาเคสต่อเคส เพื่อให้เข้ากับรูปหน้าของแต่ละคน
  • มีใบอนุญาติคลินิกเวชกรรม
  • มีเทคนิคเฉพาะ บวมช้ำน้อย
  • ตาสวยหวานเข้ากับใบหน้า
  • ดูแลติดตามหลังทำอย่างต่อเนื่อง

 

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัดทำตาสองชั้น และศัลยกรรมรอบดวงตาอื่นๆ

การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดทำตาสองชั้น เป็นปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากเตรียมตัวไม่ดีหรือไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัดก่อนการผ่าตัด ปัจจัยเหล่านั้นอาจส่งผลกระทบต่อกระบวนการการผ่าตัด ดังนั้น ควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนการผ่าตัดทำตาสองชั้น โดยสามารถทำได้ดังต่อไปนี้

1.งดอาหารเสริม วิตามิน C,E น้ำมันตับปลา สมุนไพร 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด
2. หากมีโรคประจำตัว เช่น ความดันสูง เบาหวาน โรคหัวใจ ให้ปรึกษาแพทย์ที่ดูแลก่อน ถึงแม้การทำตาสองชั้นจะเป็นการผ่าตัดโดยใช้แค่เฉพาะที่ แต่เพื่อความปลอดภัยที่สุด
3. นอนหลับให้เพียงพอ ไม่ต้องงดอาหารก่อนผ่าตัดทำตาสองชั้น
4. เตรียมแว่นตากันแดดมาเอง เพื่อหลังผ่าตัดทำตาสองชั้นแล้วสามารถใส่ป้องกันฝุ่นละอองได้อีกด้วย
5. ถึงแม้หลังผ่าตัดทำตาสองชั้นจะไม่บวมมาก แต่ไม่แนะนำให้ขับรถกลับเองหลังผ่าตัด เพื่อความปลอดภัย
6. เตรียมวันหยุด ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้พักหลังผ่าตัดทำตาสองชั้น อย่างน้อย 1-2 วัน เพื่อลดการใช้สายตาและมีเวลาประคบแผลมากขึ้น แผลจะหายเร็วขึ้น

  1. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ อย่างน้อย 7 วันก่อนผ่าตัด
  2. งดชา กาแฟ เครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีน เช้าวันผ่าตัด

การดูแลหลังผ่าตัดทำตาสองชั้น และศัลยกรรมรอบดวงตาอื่นๆ

อีกปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันในการผ่าตัดทำตาสองชั้น คือ การดูแลหลังการผ่าตัด เพราะถ้าหากผ่าตัดมาแล้ว ไม่ดูแลแผลหรือดูแลบริเวณรอบดูตาให้ดี ก็มีโอกาสเกิดภาสะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดตามมาได้ อาจจะส่งผลเสียต่อการผ่าตัดทำตาสองชั้น ดังนั้น หลังจากผ่าตัดทำตาสองชั้นเรียบร้อยแล้ว ควรปฏิบัติตามข้อต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. หลังผ่าตัด 48 ชั่วโมงแรก วางเจลประคบเย็นเพื่อให้หายเร็วขึ้นโดยใช้ผ้าก๊อซรองก่อน ระวังไม่ให้แผลเปียก ถ้ามีเลือดซึมสามารถใช้ผ้าก๊อซกดที่แผล ไม่ต้องแรง จนกว่าเลือดจะหยุดซึม (ยกเว้นในเคสที่ทำการปลูกถ่ายไขมันไม่จำเป็นต้องประคบ)
    2. นอนศีรษะสูงกว่าปกติใน1-2 คืนแรกของการผ่าตัด เพื่อลดอาการบวม
    3. ทำความสะอาดแผลวันละ 1-2ครั้ง โดยใช้ไม้พันสำลีสะอาดชุบน้ำเกลือ แล้วเช็ดคราบเลือดซึมบริเวณแผล
    4. ป้ายยาฆ่าเชื้อแบบขี้ผึ้งที่แผลบ่อยๆ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
    5. ห้ามแผลโดนน้ำอย่างเด็ดขาด จะทำให้แผลติดเชื้อได้
    6. หลังวันที่ 3 เป็นต้นไป ให้ประคบอุ่น (ระวังไม่ให้ร้อนเกินไป) ช่วยให้อาการบวมช้ำลดลงได้ สามารถสลับกับประคบเย็นได้เพื่อช่วยให้ลดบวมเร็วขึ้น
    7. ยาละลายลิ่มเลือดหรือวิตามินที่หยุดกินก่อนผ่าตัด สามารถกินได้หลังผ่าตัด วันที่ 7หรือเมื่อไม่มีเลือดออกซึมแล้ว
    8. หลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง เหล้า ไข่ อาหารทะเล 4สัปดาห์ เพื่อป้องกันแผลนูนคัน
    9. กินยาฆ่าเชื้อที่แพทย์สั่งจนหมด ยาแก้ปวดกินเฉพาะเวลามีอาการ
    10. ออกไปข้างนอกให้ใส่แว่นตากันลมฝุ่น สิ่งสกปรก
    11. มาตัดไหมตามนัด 5-7 วันหลังผ่าตัด

 

เทคนิค Blink eyes ของ Doctor Garn Clinic ต่างจากที่อื่นอย่างไรบ้าง

ทำตาสองชั้นทรงไหนดีที่สุด

 เคสแบบไหนบ้างที่ไม่รับทำตาสองชั้น

1.คนที่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่คุมได้ไม่ดี หรือโรคกำเริบอยู่ เช่น เบาหวานที่คุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ไม่ดี ความดันโลหิตสูงที่คุมไม่ได้ โรคไทรอยด์เป็นพิษที่ยังคุมระดับไทรอยด์ฮอโมนยังไม่ได้

2.เคสที่มีปัญหาตาโปนจากไทรอยด์เป็นพิษ

3.เคสที่เคยผ่าตัดแก้ตาสองชั้นมาหลายครั้งและถูกตัดหนังตาออกไปเยอะจนไม่เหลือหนังตาให้ตัดแล้ว

 

ทำตาสองชั้นใช้เวลานานเท่าไร

ระยะเวลาที่ใช้ในการผ่าตัดตาสองชั้น ขึ้นอยู่เทคนิคที่แพทย์เลือกใช้ในแต่ละบุคคล และขึ้นอยู่กับความยากง่ายในการทำของแต่ละเคสด้วย โดยปกติการทำตาสองชั้นในเคสทำใหม่ใช้เวลาประมาณ 40นาที- 1ชม. หากเป็นเคสแก้ตาสองชั้นใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1-2 ชั่วโมง หากเป็นเคสการแก้ไข้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง จะใช้เวลาประมาณ 1-3 ชม.

การทำตาสองชั้นร่วมกับการเปิดหัวตาดีอย่างไร

การเปิดหัวตา คือการผ่าตัดตกแต่งหนังตาที่ปิดบริเวณหัวตา เพื่อให้บริเวณหัวตาดูกว้างขึ้น เห็นชั้นตาบริเวณหัวตาชัดขึ้น รูปร่างตาดูยาวขึ้น ความโค้งของชั้นตาบริเวณหัวตาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น โดยเฉพาะในเคสที่หนังตาลงมาปิดบริเวณหัวตา ทำให้ตาดูเหล่ การเปิดหัวตานี้ก็จะช่วยได้ แต่หากคนใดที่มีมุมหัวตาที่เปิดอยู่แล้วก็ไม่มีความจำเป็นที่จะเปิดหัวตา การทำตาสองชั้นและเปิดหัวตาร่วมด้วย คุณหมอจะพิจารณาความจำเป็นและความเหมาะสมในแต่ละคน ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการทำตาสองชั้นแล้วจะมีความจำเป็นต้องเปิดหัวตาร่วมด้วย

                การทำตาสองชั้น ร่วมกับเปิดหัวตา เหมาะกับคนที่หนังตาลงมาปิดบริเวณหัวตามาก ทำให้ตาดูเหล่ คนที่อยากได้ชั้นตาใหญ่ แต่มีหัวตาปิด คนที่หัวตามีเส้นเป็นแฉก

                ข้อดีการทำตาสองชั้นร่วมกับเปิดหัวตา ตามีรูปร่างเรียวยาวขึ้น ทำให้เห็นชั้นตาตั้งแต่บริเวณหัวตา ในเคสที่มีระยะห่างระหว่างตาสองข้างมาก การเปิดหัวตาจะช่วยให้หัวตายาวขึ้น ใกล้จมูกมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาตาเหล่ได้ ในเคสที่ต้องการชั้นตาใหญ่ แต่หนังที่หัวตาปิด การผ่าตัดเปิดหัวตาจะช่วยให้ชั้นตาเป็นธรรมชาติมากขึ้น

 

เทคนิคการทำตาสองชั้นร่วมกับการยกหางตา(หางหงษ์) คืออะไร ดีอย่างไร

สำหรับคนที่มีปัญหาหนังตาตกและมีหนังตาตก มีหนังตากองตรงช่วงหางตา ทำให้ตาดูมีอายุ และตาดูเศร้า การทำตาสองชั้นร่วมกับการยกหางตา(หางหงษ์) เป็นการทำตาสองชั้นแบบกรีดยาวเลยไปตรงหางตาที่มีหนังตากอง เก็บหนังตากองออกแล้วเย็บยกหางตาให้ดูเฉียงขึ้น ลักษณะเหมือนหางหงส์ หากคนไข้มีไขมันบริเวณเปลือกตามากหรือเปลือกตาหนา แพทย์จะทำการตัดไขมันหรือเปลือกตาส่วนเกินออก จากนั้นก็เย็บชั้นเปลือกตาให้สวยงาม เป็นวิธีที่จะช่วยให้ชั้นตาดูชัดขึ้นและที่สำคัญคือ ทำให้บริเวณหางตาดูโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่มีหางตาตก, หนังตาตก, อยากเปลี่ยนบุคลิกให้ดูสดใส โฉบเฉี่ยวขึ้น

ถุงใต้ตา คืออะไร เกิดจากอะไร ลดถุงใต้ตายังไง ผ่าตัดถุงใต้ตาแบบถาวร ดีไหม

ถุงใต้ตา คืออะไร เกิดจากอะไร ลดถุงใต้ตายังไง ผ่าตัดถุงใต้ตาแบบถาวร ดีไหม

ปัญหาถุงใต้ตาไม่ใช่เรื่องล้อเล่น บางคนโดนล้อจนกลายเป็นปมด้อยในชีวิต ทำให้ขาดความมั่นใจไปโดยปริยาย ปัญหาถุงใต้ตาสามารถแก้ได้ไหม จริงๆ แล้วจัดการได้ไม่ยาก การลดถุงใต้มีหลายวิธีแต่วิธีที่เห็นผลดีที่สุด คือการผ่าตัดถุงใต้ตาแบบถาวร ก่อนเข้ารับการผ่าตัดถุงใต้ตา มีข้อควรรู้หลายอย่างเลย อย่างแรกมารู้จักกับถุงใต้ตากัน ทำไมคนเรามีถุงใต้ตา มันเกิดจากอะไร

ถุงใต้ตา คืออะไร เกิดจากอะไร

ถุงใต้ตา คือ ถุงไขมันบริเวณขอบตาล่างมีอาการบวมหรือนูนออกมา ส่วนมากเกิดจากผิวหนังใต้ตาที่หย่อนคล้อยเมื่อมีอายุเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ถุงใต้ตายังเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรม กรรมพันธุ์ และมีอีกหลายสาเหตุเลยทีเดียว โดยสรุปถุงใต้ตาหย่อนคล้อยมี 2 ประเภท ดังนี้

1. ถุงใต้ตาเทียม

ถุงใต้ตาเทียม เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว อาจเกิดจากการไหลเวียนโลหิตและน้ำเหลืองที่ผิดปกติ ทำให้เกิดไขมันสะสมหรือของเหลวใต้เปลือกตา บางครั้งเกิดจากพฤติกรรม เช่น การขยี้ตา ร้องไห้ นอนพักผ่อนน้อย เป็นต้น หรือเกิดจากการอาการแพ้ การติดเชื้อ

2. ถุงใต้ตาแท้

ถุงใต้ตาแท้ มี 2 สาเหตุหลัก ได้แก่ พันธุกรรม หรือการทำงานขอบระบบต่อมไร้ท่อที่ผิดปกติ ทำให้ไขมันหรือของเหลวมารวมตัวกันที่ผิวหนังใต้ตา อีกหนึ่งสาเหตุเกิดการอายุที่เพิ่มมากขึ้นผิวหนังใต้ตาหย่อนคล้อยเพราะเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา

ถุงใต้ตา จัดการยังไง มีวิธีไหนลดถุงใต้ตาได้บ้าง

การลดถุงใต้ตามีหลายวิธี หากเป็นถุงใต้ตาเทียมที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ลดถุงใต้ตาได้ไม่อยาก เช่น ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง พักผ่อนให้เพียงพอ บำรุงผิวรอบดวงตาด้วยวัตถุดิบจากธรรมชาติ เป็นต้น ในกรณีที่เป็นถุงใต้ตาแท้ อาจจัดการได้ด้วยการฉีดสารเติมเต็ม ใช้เคลื่อนความถี่วิทยุ หรือใช้คลื่นอัลตราซาวด์ ถ้าถามว่าวิธีไหนดีที่สุด การผ่าตัดถุงใต้ตาแบบถาวรให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

การผ่าตัดถุงใต้ตาแบบถาวร คืออะไร

การผ่าตัดถุงใต้ตาแบบถาวร เป็นวิธีที่ดีที่สุดและยังเหมาะกับผู้ที่มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อย หรือมีถุงไขมันใต้ตาเยอะมีถุงใต้ตาป่องนูนขึ้นมา วิธีนี้ช่วยกำจัดถุงใต้ตาแท้หรือถุงใต้ตาที่เกิดจากกรรมพันธุ์ได้ อย่างเช่น การผ่าตัดถุงใต้ตาแบบดูดไขมัน ไร้รอยแผลที่เหมาะกับหนุ่มสาว ผิวหนังไม่หย่อนคล้อยมากดังนั้นจึงไม่เหมาะกับคนที่อายุมาก

ก่อนผ่าตัดถุงใต้ตา ควรรู้อะไรบ้าง

  • ก่อนผ่าตัดจะหยอดยาชาประมาณ 3-4 ครั้ง ทำให้รู้สึกว่าตามัว มองไม่ชัด
  • หลังจากนั้นจะใส่ Eye Shield แบบหนาคล้ายคอนแทคเลนส์ ป้องกันอันตรายต่อกระจกตา
  • แพทย์จะฉีดยาชาด้านในของเปลือกตาล่าง รอยาชาออกฤทธิ์พร้อมผ่าตัด
  • แพทย์จะกรีดแผลขนาดเล็กด้านในเปลือกตา นำไขมันส่วนเกินออก เรียงไขมันใหม่
  • เทคนิคนี้ไม่จำเป็นต้องตัดไหม เนื่องจากไม่ต้องเย็บ ตาจะหายบวม 7-10 วันและเข้าที่ประมาณ 1 เดือน

ผ่าตัดถุงใต้ตาแบบถาวรเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะให้ผลลัพธ์แบบถาวร อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดถุงใต้ตานั้นจะต้องได้รับการประเมินจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าทำได้หรือไม่ หรือเหมาะกับเทคนิคไหนมากที่สุดเพราะปัญหาของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แพทย์จะพิจารณาเป็นเคสบายเคสไป

เพิ่มเพื่อน

ตาลอยเกิดจากอะไร มีลักษณะเป็นอย่างไร แก้ด้วยการผ่าตัด อันตรายไหม

ตาลอยเกิดจากอะไร มีลักษณะเป็นอย่างไร แก้ด้วยการผ่าตัด อันตรายไหม

ตาลอยเกิดจากอะไร ต้องบอกเลยว่าเกิดจากหลายสาเหตุ อาการตาลอยส่งผลต่อบุคลิกภาพทำให้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายขาดความเชื่อมั่นบางคนโดนทักจนเสียเซลฟ์ ตาลอยดวงตาไม่สดใสดูเหนื่อย ดูตาโปนกว่าความเป็นจริง ทำให้เวลานอนหลับนั้นหลับตาไม่สนิทด้วยจนเกิดภาวะตาแห้ง ยิ่งถ้ามีอาการอื่นๆ ร่วมด้วยอาจส่งผลต่อการมองเห็นกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้

ลักษณะของตาลอย เป็นอย่างไร

ตาลอยมีลักษณะขอบตาล่างอยู่ต่ำกว่าขอบตาดำ ปกติแล้วดวงตาของคนทั่วไป ขอบตาบนปิดตาดำลงมาประมาณ 1-2 มม. ในขณะที่ขอบตาล่างจะพอดีกับขอบตาดำ ดังนั้น ถ้าขอบตาล่างอยู่ต่ำกว่าขอบตาดำ จึงมีลักษณะตาลอยไม่ได้สัดส่วนนั่นเอง

ตาลอย เกิดจากอะไร

ตาลอยเกิดได้จากหลายสาเหตุ บางคนเข้าใจว่าเกิดจากการใส่คอนแทคเลนส์ จริงๆ ไม่ใช่อย่างที่คิด อาจเป็นเพราะคุ้นชินกับขนาดของตาดำเมื่อใส่คอนแทคเลนส์ พอถอดออกจึงไม่คุ้นชิ้นกับขนาดตาดำเดิม เลยเข้าใจผิดคิดว่าตาลอย สาเหตุที่แท้จริงของตาลอย ได้แก่

1. ตาลอยเมื่อ อายุมากขึ้น

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น หนังตาล่างหย่อนคล้อย ขอบตาล่างหย่อนลงมาทำให้เห็นบริเวณตาขาวมากขึ้น ขอบตาไม่ติดกับตาดำเหมือนเดิม

2. เคยผ่าตัดถุงใต้ตา

คนที่เคยผ่าตัดถุงใต้ตามา แล้วตัดหนังตาออกมากไป อาจทำให้ตาลอยได้เหมือนกันเพราะเปลือกตาล่างถูกดึงรั้งลงมามากไป กลายเป็นคนตาลอยไปโดยปริยาย

3. กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอาจทำให้ดูตาลอยได้ เพราะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทำให้หนังตาบนลงมาปิดตา ร่างกายเกิดปฏิกิริยาตอบสนองอัตโนมัติด้วยการพยายามเบิ่งตา ส่งผลให้เอ็นตาล่างหย่อน

4. มีแผลใหญ่ใต้ตา

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตาลอย เกิดจากมีแผลคีลอยด์ขนาดใหญ่เกิดขึ้นบริเวณใต้ตา ส่งผลทำให้เกิดการดึงรั้งเปลือกตาล่าง ทำให้ดูตาลอยได้

5. กรรมพันธุ์

ตาลอย อาจเกิดขึ้นกรรมพันธุ์ บางคนตาลอยมาตั้งแต่กำเนิดเนื่องจากพ่อแม่หรือมีคนในครอบครัวมีลักษณะตาลอย ขอบตาล่างต่ำกว่าขอบล่างของตาดำ

แก้ตาลอยด้วยการผ่าตัด ได้ไหม อันตรายหรือไม่

การผ่าตัดแก้ตาลอย ถือเป็นวิธีที่ดีที่สุด ไม่แนะนำให้ใส่คอนแทคเลนส์ แม้จะทำให้ตาดำดูโตขึ้นแต่ไม่ได้แก้ปัญหาอย่างถาวรเหมือนการผ่าตัด บางครั้งมีข้อจำกัดเรื่องความไม่สะอาดด้วย อันตรายมากๆ อย่างไรก็ตาม การผ่าตัดจะต้องพิจารณาที่สาเหตุเป็นหลัก แพทย์จะเป็นผู้ประเมินเลือกเทคนิคที่เหมาะสมที่สุดให้กับคนไข้ในแต่ละเคส  เช่น ตาลอยจากตาดำกรอกขึ้นด้านบน แก้ด้วยการผ่าตัดกล้ามเนื้อที่กรอกตา จากนั้นดึงให้ตาดำลงมา หรือถ้ามีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ต้องแก้ไขทีละส่วน แก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงก่อน หรืออาจใช้วิธีเย็บเอ็นตาล่างเพื่อให้ขอบตาสูงขึ้น เป็นต้น การผ่าตัดไม่อันตรายถ้าเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้ แพทย์มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน มีใบอนุญาตคลินิกเวชกรรมถูกต้องตามกฎหมาย

ตาลอยเกิดจากอะไร มีสาเหตุใดบ้าง ตาลอยมีลักษณะเป็นอย่างไร ตาลอยทำให้เราเสียบุคลิก ขาดความมั่นใจในตัวเอง ดวงตาไม่สดใส บางครั้งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การแก้ตาลอยทำได้ด้วยวิธีผ่าตัด ไม่อันตรายอย่างที่คิดแต่ต้องเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้เท่านั้น
เพิ่มเพื่อน