หน้าโทรม หน้าหมองคล้ำ คืออะไร?
การที่ใบหน้าของเราดูหมองคล้ำ ไม่สดใส คือการสูญเสียสารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า คอลลาเจน ซึ่งเป็นสารสำคัญในผิวของทุกคน เมื่อการผลัดเซลล์ผิวทำได้ช้าลงกว่าเดิม จึงส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม หมองคล้ำ และอาจทำให้ใบหน้าดูไม่เรียบเนียน ไม่กระจ่างใสอีกด้วย และที่สำคัญคือการสูญเสียความมั่นใจเมื่อใบหน้าดูแก่กว่าวัยจากการมีใบหน้าที่โทรมและหมองคล้ำ
สาเหตุที่ทำให้หน้าโทรม หน้าหมองคล้ำ
ใบหน้าจะหมองคล้ำหรือดูโทรมนั้นเกิดจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับแสงแดดทุกวัน อากาศที่ร้อนอบอ้าว สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ หรือเกิดจากปัจจัยภายใน เช่น การพักผ่อนไม่เพียงพอ ความเครียด อายุที่มากขึ้น รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต อย่างการล้างหน้าไม่สะอาด ไม่สครับผิว ดื่มน้ำน้อย สูบบุหรี่มากไป และโดนผลกระทบจากแสงสีฟ้าจากการจ้องคอมพิวเตอร์นานเกินไป สาเหตุเหล่านี้ ก็ล้วนเป็นผลที่ทำให้หน้าโทรม และหมองคล้ำได้เช่นกัน
มีวิธีป้องกันอย่างไร ให้หน้าไม่โทรม
การฟื้นฟูผิวหน้าที่หมองคล้ำจากแสงแดดนั้นควรทำให้เป็นกิจวัติประจำวัน เช่น การล้างหน้าให้สะอาด และสครับหน้าเป็นประจำทุกเดือน เนื่องจากช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปได้ งดการสูบบุหรี่เพราะควันจากบุหรี่ถือเป็นมลพิษอย่างหนึ่ง เข้านอนให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จะช่วยทั้งการปกป้องผิวจากแสงสีฟ้า และทำให้ดวงตาไม่เสื่อมสภาพอีกด้วย นอกจากนี้ การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว และการทาครีมกันแดดทุกครั้ง ไม่ว่าจะออกนอกบ้านหรือไม่ก็ตาม ก็ช่วยป้องกันรังสี UV ไม่ให้ทำร้ายผิวได้ แต่ทั้งหมดนี้เป็นเพียงวิธีแก้หน้าหมองคล้ำที่อาจจะต้องใช้เวลา และควรทำให้เป็นกิจวัตรจึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดีกับสภาพผิว
ทริคเร่งด่วน ช่วยแก้หน้าโทรม หน้าหมองคล้ำ
ถ้าหากมีความจำเป็นต้องกู้ผิวหน้าที่กำลังโทรมหรือหมองคล้ำอย่างเร่งด่วน ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิวจากแดดได้ และเป็นวิธีที่จะช่วยดูแลผิวจากภายในไปสู่ภายนอกอีกด้วย
1. สครับผิวหน้าสักหน่อย
การที่ไม่เคยได้สครับผิวหน้าเลย ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าหมองคล้ำได้เช่นกัน เนื่องจากร่างกายไม่ได้กำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากใบหน้าเลย ซึ่งเป็นผลให้เนื้อครีมที่ทาบำรุงไม่สามาถเข้าไปถึงชั้นผิวได้ แม้จะใช้ครีมที่มีคุณภาพดีมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หน้าดีขึ้นได้ ดังนั้น จึงควรสครับหน้าเป็นประจำทุกเดือน โดยเลือกใช้เนื้อสครับแบบละเอียดสครับหน้า โดยการสรับหน้าเป็นวิธีแก้หน้าหมองคล้ำและเป็นวิธีที่ทำให้ผิวหน้าดูแข็งแรงขึ้นได้ แต่ควรระวังอย่าสครับหน้าบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้ผิวเสียได้
2. สนใจในการใช้มาสก์หน้า
การมาสก์หน้าช่วยทำให้ใบหน้าชุ่มชื้นขึ้น และหากทำเป็นประจำจะเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เมื่อแต่งหน้าก็ติดทนมากขึ้น ไม่ไหลเยิ้มระหว่างวัน โดยแผ่นมาสก์หน้านั้นมีหลายสูตร ทั้งสูตรเพิ่มความกระจ่างใส สูตรลดสิว หรือสูตรลดริ้วรอย โดยสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ และให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละคน ซึ่งวิรีนี้จะทำให้ผิวหน้าได้รับการดูแลอย่างรวดเร็ว และตรงจุดมากที่สุด
3. หลีกเลี่ยงน้ำร้อน
น้ำร้อนจะส่งผลให้หลอดเลือดแดงมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าดูแดงขึ้น แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ แต่หากใช้น้ำร้อนในการล้างหน้าติดต่อกันเป็นเวลานานๆ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้สูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้หน้าแห้ง จนนำไปสู่ปัญหาผิวหมองคล้ำมากขึ้น ดังนั้น หากต้องการฟื้นฟูผิวจากแดด แนะนำให้ใช้น้ำอุ่นแทนน้ำร้อนล้างหน้าจะเป็นผลดีต่อผิวหน้ามากกว่า ในส่วนของการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ควรใช้คลีนเซอร์ที่มีส่วนประกอบของน้ำมันมะพร้าว น้ำมันอัลมอนด์ หรือเชียบัตเตอร์ เพราะจะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นเอาไว้ได้
4. โยเกิร์ตน้ำผึ้ง คู่หูกู้หน้าโทรม หน้าหมอง
โยเกิร์ตและน้ำผึ้งเป็นวัตถุดิบที่หากใครอยากมาสก์หน้าต้องเคยลองใช้ เพราะมีคุณสมบัติที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้จากน้ำผึ้ง และโยเกิร์ตก็ช่วยลดความหมองคล้ำได้เป็นอย่างดี เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ควรผสมทั้งสองอย่างเข้าด้วยกัน แล้วจึงทาบนผิวหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 – 20 นาที ก่อนจะล้างออกด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำสะอาด หลังจากมาส์กหน้าจะสัมผัสได้ถึงความความนุ่มและความกระจ่างใสที่มีต่อใบหน้า วิธีนี้จึงเป็นวิธีแก้หน้าหมองคล้ำที่ทำได้ง่าย และได้รับความนิยมกันอย่างล้นหลาม
5. ว่านหางจระเข้ เพื่อนรักช่วยฟื้นฟูให้หน้าใส
อีกวิธีที่จะช่วยทำให้ผิวหน้ากลับมาแข็งแรงได้นั่นก็คือ การใช้ว่านหางจระเข้ วัตถุดิบที่ไม่ได้มีดีแค่ช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนผิวหนังเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ใบหน้ามีความชุ่มชื้น ลดเลือนรอยด่างดำ รูขุมขนกระชับ และทำให้ผิวดูกระจ่างใสมากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยฟื้นฟูผิวหลังจากโดนแดด หรือหลังจากการทำเลเซอร์ได้อีกด้วย เรียกได้ว่ามีประโยชน์หลากหลายให้ใช้อย่างไม่จำกัดเลยทีเดียว
6. เพิ่มมอยส์เจอไรเซอร์ให้ขีดสุด
การเพิ่มความชุ่มชื้นจะทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส และลดปัญหาอื่นๆ ได้อีกด้วย ดังนั้น การทามอยส์เจอไรเซอร์เป็นประจำทุกวันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกู้ผิวใส แก้ปัญหน้าโทรมแบบเร่งด่วนได้ มอยส์เจอไรเซอร์มีส่วนช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ไม่หมองคล้ำ ใบหน้าชุ่มชื้นสามารถแต่งหน้าติดทนตลอดทั้งวัน โดยสามารถเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิว เช่น หากต้องการซ่อมแซมผิวจากความหมองคล้ำให้เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีเซราไมด์เป็นส่วนผสม เป็นต้น
7. พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดด
อย่างที่ทราบกันดีว่าแดดเมืองไทยค่อนข้างส่งผลเสียให้กับผิว นอกจากผิวจะหมองคล้ำแล้ว ยังทำให้ผิวไหม้แดดได้อีกด้วย ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดด หรือหากจำเป็นต้องตากแดดก็ควรทาครีมกันแดดเป็นประจำสวมเสื้อแขนยาว หรือกางร่ม เป็นต้น โดยวิธีนี้จะช่วยป้องกันสภาพผิวของเราจากแสงแดดได้
8. ประคบผิวหน้าด้วยน้ำแข็ง
วิธีแก้หน้าโทรมแบบเร่งด่วนด้วยการประคบด้วยน้ำแข็ง เหมาะสำหรับคนที่พักผ่อนน้อยหรือคนนอนดึก ที่อาจทำให้มีปัญหาใบหน้ามีรูขุมขนกว้าง หรือปัญหาใบหน้าหมองคล้ำได้ การประคบน้ำแข็งจะช่วยทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น และยังส่งผลให้ร่างกายตื่นตัว รู้สึกสดชื่นมากกว่าเดิมอีกด้วย
9. เติมวิตามินผิว ให้กระจ่างใส เปล่งปลั่ง
หนทางที่จะช่วยฟื้นฟูผิวเสียจากแสงแดดให้กลายเป็นผิวสวยได้ก็คือ การ
ฉีดวิตามินผิวขาว ซึ่งจะช่วยให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส สุขภาพดี ลดความหยาบกร้าน เร่งผลัดเซลล์ผิว และยังเป็นวิธีที่ทำให้ผิวหน้ามีความแข็งแรงและชุ่มชื้นอยู่เสมอ วิธีนี้อาจจะไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันทีหลังฉีดผิว แต่ถ้าหากทำหัตถการต่อเนื่องอย่างน้อย 3 – 5 ครั้ง ก็จะเห็นได้ถึงการเปลี่ยนแปลง ผิวดูสดใสไม่หมองคล้ำ และไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายอีกด้วย
เลเซอร์หน้าใส ผิวใสแบบเร่งด่วน
นอกจากวิธีแก้หน้าหมองคล้ำ เช่น การดูแลผิวหน้าด้วยการสครับ บำรุงผิว หรือฉีดวิตามินผิวขาว ก็ยังมีอีกวิธีในการเสริมสร้างความสวยให้กับผิวหน้า คือการทำ
เลเซอร์หน้าใส ที่จะทำให้ใบหน้าสดใส ไม่หมองคล้ำ หรือดูโทรม เพราะการเลเซอร์หน้าใสนั้นจะช่วยรักษาฝ้า กระ รอยด่างดำ ทำให้เม็ดสีใต้ชั้นผิวหนังเกิดการกระจายตัวออกจากเม็ดเลือดขาว เพื่อเข้าไปทำลายเซลล์เม็ดสีที่ผิดปกติออกไปจากร่างกาย และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน สารตัวสำคัญที่ทำให้ผิวดูเนียนใสมากกว่าเดิมนั่นเอง
โดยการเลเซอร์หน้าใส Q-switch นั้นจะใช้เวลาเพียงประมาณ 10 – 30 นาที อาจมีการแสบร้อนบ้างในบริเวณที่ถูกเลเซอร์ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ และหากเข้ารับการทำหัตถการอย่างต่อเนื่อง 3 – 6 ครั้ง ทุกๆ 2 สัปดาห์ จะเห็นความแตกต่างของผิวที่ดูเรียบเนียน กระจ่างใส รอยดำและรอยแดงลดลงตามสภาพผิวของแต่ละคน เรียกได้ว่าเป็นวิธีแก้หน้าโทรมแบบเร่งด่วนที่เห็นผลลัพธ์ที่ดี แต่ถ้าหากป้องกันผิวด้วยตัวเองควบคู่ไปด้วย เช่น การเลี่ยงแดด และการทาครีมกันแดด ก็จะสามารถทำให้ผิวหน้าดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สรุป
วิธีแก้หน้าหมองคล้ำสามารถทำได้ทั้งการดูแลตัวเองให้ดี ล้างหน้าให้สะอาด สครับใบหน้าทุกเดือน ทาเจลว่านหางจระเข้เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว และทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวไหม้หรือคล้ำจากแสงแดดได้ หรืออีกวิธีหนึ่งที่ให้ผลดีและรวดเร็วกว่า เช่น การฉีดวิตามินผิวขาว เลเซอร์หน้าใส เป็นต้นโดยวิธีเหล่านี้ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์ควบคู่ไปกับการฟื้นฟูผิวตัวเองเป็นประจำ จะทำให้ฟื้นฟูผิวหน้าที่เคยหมองคล้ำจากแดดให้กระจ่างใสขึ้นได้
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีแก้หน้าโทรม FAQ
ถ้าจำเป็นต้องตากแดดทั้งวัน จะป้องกันหน้าโทรมได้อย่างไร?
บำรุงด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ ทาครีมกันแดด สวมเสื้อแขนยาว ควรล้างหน้าให้สะอาด และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยเจลว่านหางจระเข้
หน้าโทรมเกิดจากการนอนดึกจริงหรือไม่?
การนอนดึก หรือนอนน้อยเกินไปทำให้ผิวหน้าเสื่อมโทรมได้ เพราะผิวไม่ได้รับการพักผ่อนและฟื้นฟูตัวเอง ร่างกายจะผลิตน้ำมันออกมาจากต่อมไขมันทำให้หน้าดูโทรม ดังนั้น จึงควรเข้านอนตรงเวลาสม่ำเสมอ เพื่อผิวหน้าที่แข็งแรงและสุขภาพของตนเอง
เมื่อจำเป็นต้องนอนดึก ทำอย่างไรให้หน้าไม่โทรม?
แนะนำให้ทาครีมบำรุงเพิ่มความชุ่มชื้น หรือใช้น้ำแข็งมาประคบใบหน้าเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและทำให้รูขุมขนกระชับได้ดีกว่าเดิม วิธีเหล่านี้จะลดความเสี่ยงที่ทำให้หน้าโทรมได้
ทาครีมกันแดดเป็นประจำ แต่ทำไมหน้าถึงยังหมองคล้ำ?
การทาครีมกันแดดที่ถูกต้องควรทาในปริมาณ 2 ข้อนิ้ว หรือเท่าเหรียญ 10 บาท เพราะหากทาครีมกันแดดในปริมาณที่น้อยเกินไป อาจทำให้กันรังสี UV ไม่ได้ อีกทั้งควรเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวของตนเองเพื่อป้องกันการแพ้หรือระคายเคือง
ความเครียดมีผลต่อผิวหน้าจริงหรือไม่?
ไขมันจะถูกผลิตออกมาเมื่อร่างกายแสดงออกถึงความเครียด และเข้าไปผสมกับแบคทีเรียหรือเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้เกิดการอุดตันของผิว อีกทั้งยังมีการไหลเวียนของเลือดไปยังส่วนต่างๆ ในร่างกายได้น้อยลง ความเครียดจึงส่งผลให้หน้าดูโทรมได้
หน้าโทรม หน้าหมองคล้ำทานผลไม้ชนิดไหนดี?
มะเขือเทศจะบำรุงผิวหน้าที่ไหม้จากแดดได้ รวมไปถึงอาหารประเภทบร็อคโคลี่ อะโวคาโด ที่ช่วยรักษาคอลลาเจนในชั้นผิว ถั่วเหลือง ถั่ววอลนัท ลดความแห้งของผิว ทำให้ใบหน้าไม่หมองคล้ำและดูสุขภาพดี