คำกล่าวที่ว่า ‘ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ’ ยังใช้ได้เสมอ เพราะฉะนั้นผู้ที่มีดวงตาสดใส ชั้นตายกกระชับเท่ากันทั้ง 2 ข้าง ย่อมทำให้น่ามองน่าค้นหามากกว่าเดิม แต่หลายคนอาจพบเจอกับปัญหาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ทำให้เกิดอาการตาตก ตาปรือ หรือตาไม่เท่ากัน จนอาจทำให้สูญเสียความมั่นใจได้ บทความนี้จะมากล่าวถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และวิธีแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง เพื่อให้คุณมีสุขภาพดวงตาที่แข็งแรง พร้อมทั้งได้ดวงตาที่มีเสน่ห์ และน่ามอง
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คืออะไร?
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง คือ ลักษณะกล้ามเนื้อตาที่มีการทำงานไม่เต็มที่ เปลือกตาหรือกล้ามเนื้อที่ช่วยยึดตาอ่อนแรงลง ทำให้ลืมตาไม่ค่อยขึ้น ตาตก เปลือกตาหย่อน และหนังตาย้อยลงมามากกว่าปกติ ซึ่งบางคนอาจจะมีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงข้างเดียว หรือในบางกรณีอาจมีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทั้งสองข้าง ผลที่เกิดขึ้นคือตาดำจะเห็นได้ไม่เต็มวงเพราะมีหนังตาตกลงมาบดบัง หากมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงข้างเดียวจะทำให้ตาไม่เท่ากันอย่างเห็นได้ชัด เพราะว่าตาข้างที่มีภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจะตกลงมาปิดดวงตามากกว่าอีกข้าง หรือถ้าเกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทั้งสองข้างจะทำให้ตาดูเหมือนคนที่ง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา นอกจากจะส่งผลโดยตรงทางด้านความสวยงามบริเวณดวงตาแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพด้วย เนื่องจากภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อาการที่ตามมาคือทำให้เกิดภาพซ้อนได้ ซึ่งจะมีลักษณะที่เห็นภาพแยกออกจากกัน หรือเห็นภาพ 2 ภาพเหลื่อมกัน ไม่สามารถโฟกัสภาพได้
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากสาเหตุอะไร?
ลักษณะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้นสามารถสังเกตอาการได้ด้วยตัวเอง โดยจะมีอาการลืมตาไม่สุด ตาดูง่วงนอน ตาปรือ หรือตาทั้ง 2 ข้างไม่เท่ากัน โดยภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ตั้งแต่เกิด หรือเป็นภายหลังเนื่องด้วยปัจจัยอื่น ๆ ดังนี้
กรรมพันธุ์ตั้งแต่กำเนิด
โรคกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงตั้งแต่กำเนิดสามารถถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรมได้ โดยภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจะมีลักษณะของหนังตาที่ผิดปกติมาตั้งแต่เกิด สังเกตได้จากดวงตานั้นไม่มีรอยพับชั้นตา ไม่สามารถลืมตาได้เต็มที่ ลืมตาไม่ค่อยขึ้น หนังตาดูตก หางตาตกลงมาปิดตาดำมากกว่าปกติ โดยสาเหตุของกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากกล้ามเนื้อตาไม่พัฒนา หรืออาจจะเกิดจากเส้นประสาทสมองมีความผิดปกติ
การศัลยกรรม
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากการศัลยกรรมก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยมีการทำศัลยกรรมอยู่ 2 ประเภทที่เป็นสาเหตุทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ ดังนี้
ทำตาสองชั้นสูงไป
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากการทำตาสองชั้นสูงเกินไปมาจากการศัลยกรรมตาสองชั้นโดยการผูกปมไหม และปมไหมไม่สามารถละลายใต้ผิวตาได้ จึงทำให้ปมไหมอาจขัดขวางการทำงานของกล้ามเนื้อตา ผลที่เกิดขึ้นอาจทำให้ตาปรือ อาการระคายเคืองตา และถ้าหากมีการทำตาสองชั้นที่สูงเกินไปโดยมีการผ่าตัดโดนกล้ามเนื้อตา อาจทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้
กล้ามเนื้อลีเวเตอร์ได้รับการบาดเจ็บหรือฉีกขาด
กล้ามเนื้อมัดเล็กเหนือเบ้าตาอย่างกล้ามเนื้อลีเวเตอร์ได้รับการบาดเจ็บหรือฉีกขาด อาจส่งผลให้ลืมตาไม่ขึ้น ตาทั้งสองข้างลืมได้ไม่เท่ากัน ตาปรือเหมือนคนนอนน้อย เนื่องจากกล้ามเนื้อตัวนี้มีหน้าที่ควบคุมการลืมตา ยกเปลือกตาบนขึ้น หากได้รับความเสียหายจะทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงซึ่งส่งผลเสียต่อบุคลิกภาพได้
เส้นประสาทกล้ามเนื้อผิดปกติ
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากเส้นประสาทกล้ามเนื้อที่มีความผิดปกติ จากโรค MG หรือ Myasthenia Gravis โดยลักษณะของคนที่กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากโรค MG คือกล้ามเนื้อที่ยกเปลือกตามีความอ่อนแรง ทำให้เกิดสภาวะหนังตาตก ลืมตาได้ลำบาก โฟกัสภาพไม่ได้ รวมไปถึงการมองเห็นภาพซ้อนอีกด้วย
พฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
พฤติกรรมการใช้ชีวิตก็เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ ไม่ว่าจะเป็นการใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน ที่อาจทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจากการยืดออกของกล้ามเนื้อตา หรืออาจเกิดจากการขยี้ตาเป็นประจำ ที่ทำให้กล้ามเนื้อตาหย่อนยานมากขึ้น นอกจากนี้ การดูจอโทรศัพท์เป็นเวลานานเกินไป การจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ทำงานทั้งวัน และไม่ได้พักเป็นเวลานาน อาจทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนล้าจนส่งผลให้เกิดภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้เช่นกัน
อายุที่มากขึ้น
ภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเกิดจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นตามช่วงวัย ทำให้โครงสร้างผิวบริเวณเปลือกตามีความหย่อนคล้อยตามกาลเวลา เปลือกตาและกล้ามเนื้อยกเปลือกตามีความแข็งแรงลดลง เสียความยืดหยุ่นจนทำให้ไม่สามารถยกเปลือกตาได้ หนังตาจึงตกลงมามากกว่าปกติ และอาจส่งผลกระทบต่อการมองเห็นตามมาได้
สังเกตอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
การสังเกตกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้นช่วยให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงได้เร็ว และช่วยให้แก้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้อย่างทันท่วงที ซึ่งกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อาการนั้นสามารถสังเกตได้ง่าย ๆ และหากปล่อยไว้นานเกินไปโดยไม่มีการแก้ไขกล้ามเนื้อตาที่อ่อนแรง อาจส่งผลกระทบที่ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามเท่านั้น แต่อาจส่งผลต่อการใช้ชีวิตในประจำวันด้วย เพราะฉะนั้นควรสังเกตว่าตนเองมีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงหรือไม่ เพื่อที่จะได้ทำการศัลยกรรมเพื่อผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ทันท่วงที ไปดูกันว่ากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงนั้นมีอาการอย่างไรบ้าง
- สังเกตตาดำ : ตาดำทั้ง 2 ข้างมองเห็นไม่ครบเต็มวง ตาดำเปิดไม่เท่ากัน
- สังเกตการมองเห็นหรือการลืมตา : การมองเห็นภาพซ้อน โฟกัสไม่ค่อยได้ สายตาเอียง การมองเห็นลดลง และอาจจะลืมตาได้ไม่เต็มที่เพราะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- สังเกตบริเวณหนังตา : หนังตาดูตกมากกว่าปกติ โดยตกลงมาปิดทับตาดำ ตาดูไม่เท่ากัน ไม่สดใส และชั้นตาไม่ชัดเจน
- สังเกตเบ้าตา : เบ้าตาดูลึกกว่าปกติ มีร่องลึกอยู่เหนือเปลือกตา ตาดูง่วงนอนตลอดเวลา และตาดูโทรม
- สังเกตตาปรือ : ตาดูง่วงนอนตลอดเวลา และอาจมีชั้นตาซ้อนกันหลายชั้น
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงส่งผลกระทบอย่างไร?
แม้ว่าเริ่มแรกกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอาจส่งผลแค่ความสวยงามของบริเวณดวงตา แต่ถ้าหากปล่อยไว้ก็จะยิ่งทำให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง อาการหนักขึ้นเรื่อย ๆ และจะส่งผลกระทบตามมา ดังนี้
- บุคลิกภาพไม่ดี : กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงทำให้ตาดูง่วงอยู่ตลอดเวลา ตาปรือ ไม่สดใส ดูไม่ค่อยมีพลังงานในการใช้ชีวิตจนทำให้บุคลิกภาพเสีย และอาจเกิดอาการขาดความมั่นใจได้
- กระทบกับสุขภาพ : หากปล่อยให้กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเป็นเวลานาน และมีอาการลืมตาได้ไม่เต็มที่ หนังตาตกปิดทับตาดำจะส่งผลต่อการมองเห็นได้ หรือการที่ต้องยกคิ้วเป็นประจำ เมื่อใช้สายตาอาจทำให้ปวดเมื่อยบริเวณหน้าผากได้
- มีผลต่อความสวยงาม : การที่หนังตาตกเพราะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง และเปลือกตาบนปิดตาดำมากเกินไป เมื่อใช้สายตาและต้องเลิกคิ้ว อาจทำให้เกิดรอยย่นบริเวณหน้าผากได้
ประเมินระดับอาการกล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรงก่อนเข้ารับการรักษา
ในการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจะต้องมีการประเมินเบื้องต้นโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน เพื่อกำหนดแนวทางในการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงให้มีความเหมาะสมในแต่ละบุคคล โดยขั้นตอนแรกคือการดูระดับความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อตาก่อน ดังนี้
ระดับอ่อนแรงปกติ
ผู้ที่มีปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงปกติ ดวงตาจะอยู่ในระดับปกติ และมีขอบตาคลุมหนังตาปิดตาดำไม่เกิน 1-2 มม.
ระดับอ่อนแรงเล็กน้อย
ผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงระดับอ่อนแรงเพียงเล็กน้อย ดวงตาดูไม่สดใสคล้ายคนนอนน้อย โดยจะมีความอ่อนแรงของดวงตาเล็กน้อย และขอบตาคลุมหนังตาปิดตาดำเกิน 2 มม. อาจจะต้องทำการยกหางตา เพื่อแก้ปัญหาหนังตาตก
ระดับปกติอ่อนแรงปานกลาง
ผู้ที่มีอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงในระดับปกติอ่อนแรงปานกลางดวงตาดูง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา ตาปรือ มีความอ่อนแรงปานกลาง และขอบตาคลุมหนังตาปิดตาดำเกิน 3 มม.
ระดับปกติอ่อนแรงที่ต้องรักษาด่วน
เมื่ออาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอยู่ในระดับที่ต้องรักษาด่วนจะเริ่มเกิดอุปสรรคในการมองเห็น มีความอ่อนแรงมากจนต้องรักษาภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอย่างเร่งด่วน โดยจะมีขอบตาคลุมหนังตาปิดตาดำเกิน 4 มม.
การแก้ไขภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง ต่างกับการทำตาสองชั้นอย่างไร?
การศัลยกรรมทำตาสองชั้น แพทย์จะทำการกรีดตายาวเพื่อตัดหนังตาส่วนเกินออก และอีกเทคนิคที่ใช้คือการทำให้แผลเล็ก โดยไม่มีการตัดหนังตาส่วนเกินออก ซึ่งวัตถุประสงค์ของการทำตาสองชั้น คือการทำให้ชั้นตาชัดขึ้น ตาดูกลมโตเป็นธรรมชาติ ดวงตาสดใส และช่วยแก้ปัญหาหนังตาตก ที่มีไขมันส่วนเกินบริเวณเปลือกตาเยอะเกินไปอีกด้วย
ในส่วนของการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงจะเป็นวิธีการผ่าตัดที่ลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อ มีความซับซ้อนมากกว่าการทำศัลยกรรมทำตาสองชั้น เพราะการลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อจะเป็นการผ่าตัดเพื่อปรับแก้ระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตาจากสภาวะกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงให้สามารถเปิดตาได้ดีขึ้น แก้ปัญหาตาปรือได้
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า การทำตาสองชั้นกับการผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมีจุดประสงค์ในการแก้ไขปัญหาตาใกล้เคียงกัน จึงนิยมผ่าตัดกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมกับการทำตาสองชั้น เพื่อปรับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตา จัดการปัญหาหนังตาตก แก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินที่ชั้นตา ทำให้ดวงตามีลักษณะเป็นชั้นที่ชัดเจน ดูกลมโต สวยงาม และลืมตาได้อย่างเต็มที่
การศัลยกรรมกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ปัจจุบันมีเทคโนโลยี และเทคนิคการผ่าตัดที่ก้าวหน้าสามารถแก้ไขกล้ามเนื้อหนังตาอ่อนแรงได้อย่างถาวร ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ และช่วยแก้ไขได้อย่างตรงจุด เพราะการผ่าตัดลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อตา โดยหลังจากผ่าตัดปรับระดับความแข็งแรงของกล้ามเนื้อตาเรียบร้อยด้วยเทคนิคเฉพาะของทางคลีนิกร่วมกับอุปกรณ์ผ่าตัดที่มีความปลอดภัยสูงจะช่วยให้ดวงตากลับมาดูสดใส เปิดตาได้เต็มที่ ตาหายตก ตาไม่ปรืออีกต่อไป
ขั้นตอนในรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ในการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงมีขั้นตอนในการรักษา ดังนี้
- แพทย์ทำการประเมินระดับความอ่อนแรงของกล้ามเนื้อตาเพื่อกำหนดแนวทางในการรักษาให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล
- เมื่อประเมินเรียบร้อยแล้วแพทย์จะทำการกรีดชั้นตาเพื่อตัดหนังตาออก เลาะชั้นกล้ามเนื้อตาเย็บให้แข็งแรง พร้อมผ่าตัดตกแต่งเพิ่มเติมร่วมกับเทคนิคเฉพาะของทางคลีนิก เพื่อล็อกไม่ให้ชั้นตากลับมาเป็นแบบเดิมอีก
เทคนิคศัลยกรรมรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง พร้อมทำตาสองชั้น
หากต้องการรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงเพื่อแก้ปัญหาหนังตาตก ตาปรือ ตาไม่เท่ากัน ควรจะทำตาสองชั้นร่วมด้วย เพราะการรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงใกล้เคียงกับการทำตาสองชั้นอยู่แล้ว ที่ Dr.Garn Clinic เปลี่ยนโรคของคุณให้กลายเป็นโอกาสทางความงามได้ด้วยเทคนิคศัลยกรรมรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงพร้อมทำตาสองชั้น โดยผลลัพธ์ที่ออกมาทำให้ชั้นตาดูชัดมากขึ้น ตากลับมาดูเท่ากัน หนังตาไม่ตก และทำให้ดวงตาดูกลมโตสดใส
วิธีปฏิบัติตัวก่อน-หลังศัลยกรรมกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
ในการเข้ารับการแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงด้วยวิธีศัลยกรรมล้วนมีความเสี่ยง เพราะฉะนั้นจะต้องศึกษาข้อห้ามทั้งก่อนและหลังการผ่าตัด เพื่อให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดตามมาได้ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด อีกทั้งหากปฏิบัติตามข้อแนะนำเป็นอย่างดี จะทำให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่พอใจมากขึ้น
การเตรียมตัวก่อนศัลยกรรมกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
เพื่อให้การศัลยกรรมกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ผลลัพธ์ที่ดี ควรปฏิบัติดังนี้
- แจ้งประวัติการแพ้ยากับแพทย์ให้ละเอียด
- หากพบความผิดปกติของดวงตาก่อนผ่าตัดต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อให้แพทย์ประเมินก่อนผ่าตัด เช่น ตากุ้งยิง ตาแดง เป็นต้น
- งดอาการเสริม วิตามิน และสมุนไพรทุกชนิดก่อนการผ่าตัด 2 สัปดาห์
- งดใส่คอนแทคเลนส์ก่อนผ่าตัด 3 สัปดาห์
- งดแต่งหน้าในวันผ่าตัด โดยเฉพาะบริเวณดวงตา
- สระผมให้เรียบร้อยก่อนวันผ่าตัด
- หากต่อขนตาต้องถอดออกก่อนผ่าตัด
การดูแลตนเองหลังศัลยกรรมกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
เพื่อให้หลังการศัลยกรรมกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นที่น่าพอใจ แผลหายไว และสามารถฟื้นตัวได้ดี ควรปฏิบัติดังนี้
ประคบเย็นหลังการผ่าตัดในช่วง 3 วันแรก
ห้ามให้แผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม
นอนยกหัวสูง 2 สัปดาห์
ล้างแผลทุกวัน เช้า-เย็น
งดใส่คอนแทคเลนส์หลังผ่าตัด 3 สัปดาห์
หลีกเลี่ยงการขยี้ตาในช่วง 2-4 สัปดาห์
งดอาหารแสลง ของหมักดอง
พบแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามอาการ
ศัลยกรรมกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ไหนดี?
หากไม่รู้ว่าจะไปศัลยกรรมแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงที่ไหนดี ที่ Dr.Garn Clinic มีคุณหมอที่มีความน่าเชื่อถือมีใบประกอบวิชาชีพมาดูแลเองทุกขั้นตอน ผ่านเคสมามากกว่า 10,000 เคส ด้วยจุดเด่นคือการออกแบบตาสองชั้นให้ดูหวาน และมีเทคนิคเฉพาะ ทำให้ได้ตาที่สวยตรงตามความต้องการ ไม่ว่าจะปัญหาตาแบบไหนก็แก้ไขได้ การันตีได้จาก Wongnai Beauty หมอทำตาสองชั้น แก้ตาตก ที่สุดแห่งปี 2025
ผลลัพธ์จากการศัลยกรรมแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง
- เพิ่มความมั่นใจให้มีมากขึ้น เสริมสร้างบุคลิกภาพ
- เห็นตาดำชัดขึ้น
- ดวงตากลมโต สดใส เห็นชั้นตาชัดเจน
- ทำให้การมองเห็นชัดขึ้น
- ตาและชั้นตาดูเท่ากันทั้ง 2 ข้าง
- แก้ปัญหากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงได้อย่างเห็นผล
กล้ามเนื้อตาอ่อนแรงคือการที่เปลือกตาหรือหนังตาตกลงมามากกว่าปกติ กล้ามเนื้อยกเปลือกตาทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้ตาปรือ ดูง่วงนอนอยู่ตลอดเวลา และตาไม่เท่ากัน นอกจากมีผลต่อความสวยงามแล้ว ยังส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ ซึ่งอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงอาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน และควรมีวิธีรับมือกับอาการเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย โดยวิธีที่ดีและได้ผลมากที่สุดคือการศัลยกรรม หากได้รับเทคนิคที่เหมาะสม ดวงตาก็จะกลับมาดูสดใสได้ดังเดิม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง (FAQ)
หลายคนอาจมีข้อสงสัยในการรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรง บทความนี้ได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยพร้อมคำตอบไว้ให้แล้ว มีอะไรบ้างไปดูกันเลย
การรักษากล้ามเนื้ออ่อนแรงใช้เงินเท่าไหร่ ?
การรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงร่วมกับการทำตา 2 ชั้น ราคาจะอยู่ประมาณ 35,000-80,000 บาท
รักษากล้ามเนื้ออ่อนแรง พักฟื้นกี่วัน ?
หลังจากผ่าตัดแก้ไขกล้ามเนื้อตาอ่อนแรงแล้ว จะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 3-7 วันขึ้นอยู่กับการฟื้นฟูสภาพร่างกายและการดูแลตนเองที่แตกต่างกันไป หลังทำอาจมีอาการบวมหรืออาการฟกช้ำ บางรายอาจมีเลือดซึมออกมาจางๆ ที่แผลประมาณ 3-7 วัน
รักษากล้ามเนื้ออ่อนแรง อันตรายไหม ?
การรักษากล้ามเนื้อตาอ่อนแรงไม่อันตราย เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและได้คุณหมอที่มากประสบการณ์มาดูแล หากปล่อยไว้ไม่ทำการรักษาจะยิ่งส่งผลเสียต่อร่างกายได้